บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ประสบความสำเร็จเหนือกว่าเป้าหมายและการคาดการณ์ โดยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม ด้วยยอดจำหน่ายในประเทศรวม 84,560 คัน หรือ เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.3 เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์มีการขยายตัวร้อยละ 19.5 ด้วยจำนวน 1,041,739 คัน ส่วนแบ่งการตลาดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เติบโตขึ้นไปที่ร้อยละ 8.1
“ความสำเร็จของเราในปี 2561 เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือการนำเสนอรถยนต์ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันที่สุด เทคโนโลยีก้าวล้ำหน้า สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม มีความปลอดภัยและขับสนุกรวมถึงการออกแบบที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าของเรา” มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่
“กระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเราเริ่มต้นจากบุคลากรของเรา โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา เราได้เริ่มดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเสริมทักษะและยกระดับประสิทธิภาพของบุคลากร ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า นอกจากนี้เรายังได้ดำเนินกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มร. ชกกิ กล่าว
ปัจจัยหนุนผลประกอบการที่สำคัญยังรวมถึงการเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่, มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่, มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่, มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่, มิตซูบิชิ มิราจ และ แอททราจ ลิมิเต็ด เอดิชั่น, มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท เมกะแค็บ และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น
“เราดูแล คุณแค่ขับ” คือหนึ่งในความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับความพึงพอใจลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการจัดอันดับด้านการบริการอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 2 ของดัชนีความพึงพอใจด้านบริการงานขาย (CSI) และอันดับที่ 4 ของดัชนีความพึงพอใจด้านการบริการงานขาย (SSI) จากผลการศึกษาโดย เจ.ดี. พาวเวอร์ ประเทศไทย ประจำปี 2561
สำหรับด้านการส่งออก มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) และรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) มียอดส่งออกรวมทั้งหมด 347,000 คันซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ ทั้งนี้การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (BU) ไปยังโรงงานประกอบรถยนต์ในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และบราซิล อยู่ที่อัตราคงที่ ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 37 และสำหรับด้านการผลิต เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญที่ร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้วยยอดการผลิตทั้งหมด 444,000 คัน
สำหรับปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด โดยจะได้แรงขับเคลื่อนจากยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และ มิตซูบิชิ
เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 7 รุ่น แม้ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2562 ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตแบบทรงตัว อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อศักยภาพและอนาคตของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์การดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกประเทศญี่ปุ่น ด้วยกำลังการผลิตที่สูงถึงเกือบร้อยละ 30 ของกำลังการผลิตในระดับโลกทั้งหมดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก