วันนี้ทีมงาน MO-eMAG จะนำแฟนๆไปรู้จักกับ ถนนในพระราชดำริของในหลวงกันครับ เพื่อนๆอาจจะไม่ทราบก็เป็นได้ว่าถนนที่วิ่งกันอยู่ทุกๆวันนั้น ใช่ถนนที่ในหลวงของเราทรงรับสั่งให้สร้างขึ้นมารึปล่าว และแต่ละถนนที่สร้างมานั้น ก่อให้เกิดประโยชน์กับปวงชนแค่ไหน ลองไปดูกันครับ
เครดิตภาพ [email protected]
ความเป็นมา
เนื่องจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธรทำให้ช่องทางการจราจรที่มีอยู่ ๘ ช่องทาง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้พื้นที่ถนนที่เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องเพิ่มพื้นผิวการจราจรให้มากขึ้น แต่การเพิ่มพื้นที่ในระดับราบนั้นกระทำได้ยาก เนื่องจากริมถนนทั้งสองด้านเต็มไปด้วย ตึก, อาคาร และสำนักงานต่างๆ มากมาย ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดคือ การเพิ่มพื้นที่จราจรด้วยการสร้างทางยกระดับขึ้นช่วงหนึ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โครงการฯ นี้เป็นโครงการหนึ่งซึ่งสนองพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาคุณให้พสกนิกร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธร ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการตามพระราโชบายโดยรอบคอบและเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจราจรในจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งตามพระราชประสงค์
โครงการก่อสร้างถนนรัชดาภิเษก และทางยกระดับถนนพหลโยธิน ช่วงดินแดง-ดอนเมือง-หลักสี่-อนุสรณ์สถานรังสิต
เครดิตภาพ http://www.matichon.co.th
ความเป็นมา
ถนนรัชดาภิเษกและถนนอุตราภิมุข ถนนรัชดาภิเษกที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่จะต้องประสบปัญหาการจราจร โดยใน พ.ศ. ๒๕๑๓ พระองค์ท่านได้มีรับสั่งถาม พันโท ประถม บุรณศิริ (ผู้อำนวยการกองวางแผน กรมทางหลวง ในสมัยนั้น) ว่าจะจัดระบบทางหลวงอย่างไร จึงจะสามารถรับปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ พันโท ประถมได้กราบบังคมทูล ว่าการแก้ไขปัญหาสมควรที่จะใช้ระบบ Ring & Radial คือต้องมีวงแหวนรอบกรุงเทพฯ และมีถนนออกจากศูนย์กลางไปรอบตัวตัดกับวงแหวนเหล่านั้น โดยกำหนดให้เป็นทางหลวงที่ควบคุมการเข้า-ออก (Access Controlled) และตรงจุดตัดที่สำคัญจะทำเป็นทางแยกต่างระดับทุกแห่ง ซึ่งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริเห็นชอบด้วย และยังทรงพระราชทานข้อเสนอแนะเพิ่มเติมบางประการ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีรับสั่งเรื่องถนนวงแหวนรอบกรุงเทพฯ ซึ่งนายเฉลียว วัชรพุกก์ ไปชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีก็ได้ให้ความเห็นชอบตามหลักการ และมอบให้กรมทางหลวงเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการกับถนนวงแหวน ซึ่งมีอยู่ ๓ สาย ล้อมรอบ บริเวณที่ดินทั้ง ๒ ฝั่งน้ำเจ้าพระยา โดยมีสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำ ถนนวงแหวนรอบในส่วนมากมีเส้นทางเดิมอยู่แล้ว มีทางเลียบสองฝั่งแม่น้ำ ที่สะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ กับสะพานที่ปลายถนนสาทร ถนนวงแหวนรอบกลางมีเส้นทางเดิมอยู่ ๖-๘ กิโลเมตร มีทางเชื่อม ๒ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม ๖ กับสะพานกรุงเทพฯ และจะต้องสร้างทางเส้นใหม่ขึ้นเป็นทางยาวไม่น้อยกว่า ๓๖ กิโลเมตรจึงจะทำให้ถนนนี้ครบวง จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้มาก เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สัญจรเข้า-ออกระหว่างใจกลางเมืองกับชุมชนส่วนนอก ตลอดจนถึงผู้ที่มาจาก ต่างจังหวัดทั้งทางทิศเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และทิศใต้ ให้สามารถเดินทางผ่านกรุงเทพฯ ออกไปได้โดยไม่ต้องเข้าสู่ศูนย์กลางของเมืองที่มีการ จราจรคับคั่งเป็นประจำ ส่วนถนนวงแหวนรอบนอกนั้น มีเส้นทางเดิมอยู่เพียงส่วนน้อย จะต้องสร้างสะพานเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา ๒ แห่งรวมทั้งถนนใหม่ ซึ่งมีความยาวไม่น้อยกว่า ๗๕ กิโลเมตร ถนนสายนี้เตรียมไว้สำหรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต โดยจะทำหน้าที่เป็นสายอ้อมเมือง งานของกรมทางหลวงคือถนนวงแหวนรอบนอก ถนนวงแหวนรอบในเป็นงานของกรุงเทพมหานคร ส่วนวงรอบกลางแม้จะอยู่ในเขตของกรุงเทพมหานคร แต่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีได้เร่งดำเนินการเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็น พระบรมราชานุสรณ์ในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก โดยกราบบังคมทูลขอพระราชทานชื่อถนนวงแหวนสายนี้ว่า "ถนนรัชดาภิเษก" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตและได้พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยว่า ถนนรัชดาภิเษกจะใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ถ้าจะมีเส้นทางที่เชื่อมถนนจากเมืองทางตะวันออกกับถนนจากทางใต้ ให้ติดต่อกันได้โดยผ่าน ถนนวงแหวนช่วงด้านใต้ ในวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๑๕ อันเป็นวันที่มีพระราชพิธีรัชดาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ถนนรัชดาภิเษก ตามคำกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จของจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ขณะเดียวกันทางหลวงวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ อันประกอบด้วยวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ตะวันออก และด้านใต้ จึงได้มีการก่อสร้างขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเส้นทางสายนี้จะกระจายการจราจรและการขนส่งสินค้าต่าง ๆ ออกจากใจกลางกรุงเทพฯ ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดยิ่งขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดให้การจราจรผ่านแล้วในช่วงวงแหวน รอบนอกด้านตะวันตกและด้านตะวันออก ยังคงเหลือทางหลวงวงแหวนด้านใต้ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
กระทรวงคมนาคมได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญชื่อพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เป็นชื่อทางหลวงวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านใต้ว่า "ถนนกาญจนาภิเษก" และได้เปลี่ยนหมายเลขทางสายดังกล่าวจากหมายเลข ๓๗ เป็นหมายเลข ๙ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และจัดเข้าเป็นระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ต่อมา กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงเป็นผู้รับผิดชอบได้ก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพหลโยธินช่วงดินแดง-ดอนเมือง-หลักสี่- อนุสรณ์สถานรังสิต เพื่อช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการจราจรมากขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อทางยกระดับนี้รวมถึงช่วงที่จะมีการก่อสร้างเชื่อมต่อในอนาคต เป็นชื่อเดียวกันตลอดสายว่า " ถนนอุตราภิมุข" อันมีความหมายว่า "บ่ายหน้าไปทางทิศเหนือ"
เครดิตภาพ http://siweb.dss.go.th
พระราชดำรัส
"...อนุสาวรีย์อย่าเพิ่งสร้าง สร้างถนนดีกว่า สร้างถนนเรียกว่าวงแหวนเพราะมันเป็นความฝัน เป็นความฝันมาตั้งนานแล้ว..."
พระราชดำรัสเนื่องในพระราชพิธีรัชดาภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี พ.ศ. ๒๕๑๔
ผลการดำเนินงาน
ถนนกาญจนาภิเษก หรือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ (ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) เป็นถนนสายสำคัญที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานครนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยาด้วย ตลอดทั้งสายมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ๒ แห่ง ได้แก่ ด้านเหนือ คือ สะพานเชียงราก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และด้านใต้ คือ สะพานกาญจนาภิเษก จังหวัดสมุทรปราการ มีระยะทางทั้งหมดรวม ๑๖๘ กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ในช่วงตลิ่งชัน-บางบัวทอง จนเสร็จสมบูรณ์ครบทุกส่วนในปี พ.ศ. ๒๕๕๐
ถนนกาญจนาภิเษกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีปริมาณการจราจรและการขนส่งเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นทางเลี่ยงเมืองกรุงเทพมหานครที่เป็นตัวเชื่อมทางสายหลักเข้าไปสู่ทุกภาคของประเทศ เดิมมักเรียกกันว่า ถนนวงแหวนรอบนอก (ตะวันตก) มีระยะทางเริ่มตั้งแต่ถนนพระรามที่ ๒ ตัดผ่านฝั่งธนบุรี เข้าสู่จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี ไปสิ้นสุดที่ถนนพหลโยธิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญชื่อ พระราชพิธีกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปีในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ มาเป็นชื่อเรียกถนนสายนี้ (และกรมทางหลวงได้เปลี่ยนหมายเลขทางหลวงของถนนสายนี้ จากทางหลวงหมายเลข ๓๗ เป็นทางหลวงพิเศษหมายเลข "๙") หลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกและด้านใต้ขึ้นตามมาเป็นตอน ๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการสร้างสูงมาก
ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้ (บางพลี-บางขุนเทียน) ได้เปิดให้ใช้งานเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ ทำให้ถนนวงแหวนรอบนอกสามารถใช้งานได้ครบทุกด้าน โดยก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด ๖-๘ ช่องจราจรเนื่องจากที่ดินบริเวณแนวการก่อสร้างนั้นอ่อนมาก ระยะทาง ๓๔ กิโลเมตร แบ่งการดำเนินการออกเป็น ๒ ช่วง คือ ช่วงบางขุนเทียน-สุขสวัสดิ์ และช่วงสุขสวัสดิ์-บางพลี ซึ่งช่วงที่สองนี้เป็นส่วนของ ทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ โดยมีการก่อสร้างสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มเติมอีก ๑ แห่ง ที่ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามสะพานแห่งนี้ว่า "สะพานกาญจนาภิเษก" พร้อมด้วยระบบเก็บค่าผ่านทางและระบบควบคุมความปลอดภัยด้านการจราจร ซื่งเป็นระบบปิด เปิดให้บริการเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมจำนวน ๒๙ ด่าน
- ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ เริ่มจากถนนสุขสวัสดิ์ (ทางแยกต่างระดับสุขสวัสดิ์) อำเภอพระประแดง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปยังอำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยเชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล แล้วตรงไปบรรจบกับถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก ที่ถนนบางนา-บางปะกง (ทางแยกต่างระดับวัดสลุด) อำเภอบางพลี โดยเชื่อมต่อกับ ทางพิเศษบูรพาวิถี
- ในเขตกรุงเทพมหานคร เริ่มจากถนนพระรามที่ ๒ (ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน) ไปจนเข้าเขตอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
โครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
เครดิตภาพ http://www.bloggang.com/data/noiwan-wannoi
โครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมเป็นวงแหวนรอบเล็กตามแนวพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวทางไว้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ เพื่อเป็นโครงข่ายถนนรองรับการขนส่งและลำเลียงสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพ ต่อเนื่องไปถึงพื้นที่อุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ เพื่อไม่ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าไปในตัวเมืองหรือทิศทางอื่น อันเป็นสาเหตุของการจราจรติดขัดโดยรอบ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมเป็นโครงการตามพระราชดำริ
การดำเนินงาน
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๓๙ มอบหมายให้ดำเนินการก่อสร้างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมมีลักษณะเป็นถนนต่อเนื่อง เชื่อมโยงพื้นที่ย่านอุตสาหกรรมและท่าเรือคลองเตยเข้าด้วยกัน มีความยาวรวมทั้งสิ้นประมาณ ๒๕ กิโลเมตร ความกว้าง ๗ ช่องจราจรรวมช่องจราจรสำหรับรถบรรทุกหนัก งบลงทุนของโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ ๘,๗๓๙ ล้านบาท
ประโยชน์ของโครงการ
เป็นถนนวงแหวนที่เชื่อมต่อเขตอุตสาหกรรมทางตอนใต้ของกรุงเทพมหานคร เพื่อประโยชน์ในการรองรับรถบรรทุกที่วิ่งขนถ่ายและลำเลียงสินค้าจากท่าเรือ คลองเตยไปยังโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่โครงการโดยไม่ต้องใช้เส้นทางเข้าไปในตัวเมือง เป็นโครงข่ายที่เสริมโครงข่ายถนนของกรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ และเนื่องจากมีการก่อสร้างถนนใต้ทางยกระดับ ทำให้สามารถแบ่งเบาปัญหาการจราจรในพื้นที่ที่โครงการฯ พาดผ่านได้อีกทางหนึ่งนอกจากนี้ พื้นที่ใต้สะพานตามโครงการได้พัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นสวยงาม ก่อให้เกิดพื้นที่สีเขียวต่อเนื่องกับพื้นที่สีเขียวตามธรรมชาติในเขต บางกระเจ้า ทำให้มีทัศนีย์ภาพที่งดงาม เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต อีกด้วย
credit : http://www.mot.go.th , http://siweb.dss.go.th , http://www.matichon.co.th , http://www.bloggang.com/data/noiwan-wannoi